วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
Biological Clock นาฬิกาชีวิต
01:00-03:00 น . เป็นช่วงเวลาของตับ
* ควรนอนหลับพักผ่อน ถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่ง Meratonin เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่ง Meratonin ประจำแล้ว ยังหลั่ง Endrophin ออกมาด้วยจึงไม่ควรกินอาหาร เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ อีกทั้งตับยังมีหน้าที่รองช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บ ถ้าตับมีปัญหา ผม ขน และเล็บจะไม่สวย
03:00-05:00 น . เป็นช่วงเวลาของปอด
* จึงควรตื่นนอน ลุกขึ้นเพื่อสูดอากาศที่บริสุทธิ์ และรับแสงแดดในยามเช้า ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำ ปอดจะดี ผิวดีขึ้น และจะเป็นคนที่มีอำนาจในตัว
* คนที่มีปัญหาเรื่องปอดจะไม่ ค่อยตื่นเวลานี้ คนตื่นได้ตีสาม - ตีห้า แปลว่าปอดแข็งแรง มีโอกาสเป็นผู้นำคน เพราะลมมาจากปอด พูดมีพลังอำนาจ คนตื่นสายปอดจะไม่แข็งแรง
05:00-07:00 น . เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่
* ควรขับถ่ายอุจจาระทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า เมื่อไม่ถ่ายลำไส้ใหญ่จะรวน โดยสังเกตอาการรวนจากการมีอาการปวดหัวไหล่ กล้ามเนื้อเพดานจะหย่อนแล้วทำให้นอนกรนในที่สุด
* คนที่ ขับถ่ายยาก ต้องทานอาหารเช้า
* ถ้าไม่ถ่ายให้ใช้วิธีกดจุด ที่ตำแหน่งสองข้างของจมูก ถ้ายังไม่ถ่ายให้ดื่มน้ำอุ่น 2 แก้ว ถ้ายังไม่ถ่ายให้ดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว โดยใช้น้ำ 1 แก้ว + น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำมะนาว 4-5 ลูก ทำดื่มจนกว่าจะถ่าย หรือบริหารโดยยืนตรง หายใจเข้าแล้วก้มลงพร้อมทั้งหายใจออก เอามือท้าวเข่า แขม่วท้องจนเหมือนว่าหน้าท้องไปติดสันหลัง
07:00-09:00 น . เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร
* กระเพาะอาหารจะทำงานเต็มที่ ช่วงนี้ ถ้าเราไม่กินอาหาร อุจจาระจะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะ กลิ่นตัวจะเหม็น ถ้ากินอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ จะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย
09:00-11:00 น . เป็นช่วงเวลาของม้าม
* ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้าย มีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศีรษะบ่อยมักมาจากความผิดปกติของม้าม อาการเจ็บชายโครงสาเหตุมาจากม้ามกับตับ
o ม้ามโต ม้ามจะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง
o ม้าม ชื้น อาหารและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมัน ทำให้อ้วนง่าย
o ผู้ ที่มักนอนหลับในช่วงเวลานี้ ม้ามจะอ่อนแอ นอกจากนี้ม้ามจังโยงถึงริมฝีปาก ผู้ที่พูดบ่อยๆ หรือพูดเก่งๆ ม้ามจะชื้น ควรพูดน้อยกินน้อย ในเวลานี้ ม้ามจึงแข็งแรง
11:00-13:00 น . เป็นช่วงเวลาของหัวใจ
* หัวใจทำงานหนักในช่วงเวลานี้ จึงควรหลีกเลี่ยงความเครียด เหตุที่ทำให้ต้องใช้ความคิดหนัก และหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้
* คนที่ มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจ ดูได้จากมีอาการปวดไหล่ ไม่ได้แสดงอาการที่หน้าอกอย่างที่เข้าใจกัน
* กล้วย ส้ม มะเขือ เตย รากบัว บำรุงหัวใจ ( ถ้าเป็น เม็ดบัว จะบำรุงตับ และไต )
13:00-15:00 น . เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก
* ควรงดการกินอาหารทุกประเภท เพื่อ เปิดโอกาสให้ลำไส้เล็กทำงานในการดูดซึ่มสารอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น vitamin C, B โปรตีนเพื่อสร้างกรดอมิโน สร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอมิโนน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน ( โอกาสตั้งท้องจะลดลง )
>>>ปัจจุบัน การทานอาหารนอกบ้านและใช้น้ำมันที่ไม่เป็นธรรมชาติล้วนๆ ( เช่น น้ำมันมะกอก ) ทำให้ลำไส้เล็กมีไขมันเกาะ มีผลทำให้ไตเสื่อม กระดูกเสื่อม และก็สมองเสื่อม ตาเป็นต้อง่าย เป็นไซนัสหรือภูมิแพ้ง่าย จึงควร detox ลำไส้เล็กตามธรรมชาติ ดังนี้
วิธี Detox ลำไส้เล็กตามธรรมชาติ
* สูตร โยเกิร์ต 1/2 + นมสด 1 + น้ำผึ้ง 1 + มะนาว 1
* ( โยเกิร์ต ½ ถ้วย , นมสด 1 กล่อง , น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ , มะนาว 1 ลูก )
* สูตรนี้ถ้า ทานตอนเช้าจะช่วยลดความอ้วน แต่ถ้าทานช่วงบ่าย ( หลังบ่ายสามโมง ) จะเพิ่มความอ้วน
* **** เห็ดหูหนูดำ : ช่วยดูแลไต บำรุงไต
* **** เห็ดหูหนูขาว : บำรุงปอด
* **** เห็ดหอม + เห็ดหูหนูขาว + เห็ดหูหนูดำ : ล้างพิษในตับได้
* **** กระชาย : เป็นตัวบำรุงไตที่ดีที่สุด
15:00-17:00 น . เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ
* กระเพาะปัสสาวะจะเกี่ยวข้อง กับ ระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด
* ช่วงเวลานี้ จึงควร ทำให้เหงื่อออก อาจจะออกกำลังกายหรืออบตัว กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง
17:00-19:00 น . เป็นช่วงเวลาของไต
* จึงควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนในช่วงเวลานี้ ผู้ใดมีอาการง่วงนอนในช่วงเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม ถ้านอนหลับแล้วเพ้อ แสดงว่าอาการหนักมาก
o ไต ซ้าย จะคุมสมองด้านขวา ซึ่งควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัว ถ้าไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์รักสวยรักงามจะหมดไป เป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัว และเป็นคนขี้ร้อน
o ไต ขวา จะคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความทรงจำ ถ้าไตขวามีปัญหา ความจำจะเสื่อม และเป็นคนขี้หนาว
o ผู้ที่เป็น โรคไต สมองจะเสื่อม ปวดหลัง เป็นหวัดง่าย มีเสลดในคอ
o ****** การดูแล : ตอนเช้าอาบน้ำเย็น ตอนเย็นให้อาบน้ำอุ่น
19:00-21:00 น . เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ
* ช่วงเวลานี้ควรสวดมนต์ ทำสมาธิ
* ปัญหาเกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือหัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นโลหิตหัวใจตีบ ดังนั้นผู้ป่วยต้องระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ การหัวเราะ กรณีเส้นเลือดขอด ต้องดูแลเยื่อหุ้มหัวใจให้แข็งแรง ควรใส่เสื้อผ้าชุดสีดำ เทา และแช่เท้าในน้ำอุ่นเป็นประจำ
21:00-23:00 น . เป็นช่วงที่ต้องทำร่างกายให้อบอุ่น
* ห้าม !!!!! อาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย อย่าไปตาก - ลม เพราะเป็นช่วงที่ลมเป็นพิษ ควรหาความอบอุ่นให้กับร่างกายตัวเอง
23:00-01:00 น . เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี
* อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำ จะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือตอนเช้าจาม ( เพราะถุงน้ำดีโยงไปถึงปอด ) จะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ
* ทาง แก้ไข คือ อย่าใส่ชุดนอนที่เป็นผ้าใยสังเคราะห์ ไนล่อน เพราะชุดนอนเหล่านี้จะดูดน้ำในร่างกาย ความสวมชุดผ้าฝ้ายดีที่สุด ไม่ควรนอนบนที่นอนสูงๆเพราะจะทำให้เสียน้ำในร่างกาย ดังนั้นควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน หรือก่อนเวลา 23:00 น .
>>>>>><<<<<<<<<
มอบ สิ่งดีๆแก่ตัวคุณเอง และคนที่คุณรัก
* กินกล้วยวันละ 1-2 ผล จะช่วยลดความเครียด ลดความดัน เคลือบกระเพาะ และโรคหัวใจ
* การ หัวเราะ 1 นาที = การออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง
+++++++++
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ขอเชิญลูกนางฟ้าทุกท่าน ร่วมพบปะสังสรรค์เคารพอาจารย์ ในงานร่มจันกัลยาณีฯที่ กทม ณ โรงแรมเอสซีปาร์ค 4 ก.พ.2555 ครับ
ตอบลบฝ่ายประชาสัมพันธ์งานร่มจัน