วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อาคารเรียนหลังแรก

อาคารอึ่งค่ายท่าย


          พ.ศ. 2480 โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช เริ่มก่อสร้างอาคารเรียนหลังแรก พระยาสุราษฎร์ธานี ข้าหลวงประจำจังหวัด ขุนบูรณวาท ธรรมการจังหวัดและหลวงอถรรปกรณ์โกศล อัยการจังหวัด ได้ขอความอนุเคราะห์จากคหบดีเจ้าของเหมืองแร่ที่อำเภอร่อนพิบูลย์ ชื่อ นายอึ่งค่ายท่าย บริจาคเงินเพื่อสร้างอาคารเรียนให้โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ซึ่งท่านได้บริจาคเป็นจำนวน 30,000 บาท สมทบกับเงินงบประมาณของกระทรวงธรรมการ 12,000 บาท รวมค่าก่อสร้าง 42,000 บาท การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2482 

          การก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2482 จึงใช้ชื่ออาคารเรียนหลังนี้ว่า“อึ่งค่ายท่าย” เป็นอาคารเรียนหลังแรกของโรงเรียนที่ภูมิฐานสง่างาม ตราบจนปัจจุบัน

อึ่งค่ายท่าย คู่กัลยาณีศรีธรรมราช
ก้องประกาศช่วยพื้นฐานการศึกษา
ท่านช่วยเหลือสร้างอาคารเนิ่นนานมา
คงคุณค่าคือความดีที่เลื่องลือ

ด้วยเมตตาอึ่งค่ายท่ายได้สรรค์สร้าง
เป็นแบบอย่างค่าของคนชนนับถือ
ด้วยน้ำใจด้วยความดีด้วยฝีมือ
จารึกชื่ออึ่งค่ายท่ายได้ยินยล

กัลยาณีฯรำลึกค่าจารึกไว้
จากหัวใจรักผูกพันเกษมสม
รู้สำนึกคุณค่าเข้มเต็มกมล
อึ่งค่ายท่ายเปี่ยมล้นชนศรัทธา

จดบันทึกในบรรทัดประวัติศาสตร์
กัลยาณีศรีธรรมราชคงคุณค่า
อึ่งค่ายท่ายตึกคระหง่านตระการตา
เคียงคู่ฟ้ากัลยาณีศรีนคร




 

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ครู...คือแสงสว่าง












พิธีมุฑิตาคารวะคณาจารย์














งาน คืนสู่ร่มจัน  ครั้งที่ ๑๒

ณ  ห้องประชุมอาคาร ๒
โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช













๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ 















เพลงประกอบ  พระคุณที่สาม


วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วันอานันทมหิดล



9 มิถุนายน วันอานันทมหิดล

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

บวงสรวงศรีปราชญ์


บวงสรวงศรีปราชญ์

                  โอม  ศรีเอยศรีสวัสดิ์ ข้าตั้งสัจจะเคารพ นอบนบน้อมบูชา วิญญาณ์ศรีปราชญ์กวี ผู้มีวิชาเป็นเลิศ สุดประเสริฐล้ำพรรณา อย่าถือโทษาพยาบาท การณ์ชีวาตฆ์พังภินท์ เอาแผ่นดินเป็นพยาน สาบานบอกบริสุทธื์ ความผ่องผุดปรากฏ ขอจงงดโทษา จงมารับสังเวยพลี หลายหลากมีธูปเทียนทอง มาลีวิลาส  งามสะอาดตระการ โอฬารกระยาสังเวยโภชน์ ขอจงเงี่ยโสตสดับ รับคำพจน์สนอง เผือข้าปวงอวยชัย ในวาระฤกษ์พิธี เปรมปรีดิ์รับเครื่องพลีบูชิต เห็นผิดใดจงเมตตา ผ่อนโทษานุโทษ ขอจงโปรดปกปักษ์ รักษาปวงข้าพเจ้าเหล่ากัลยาณี มากประมาณให้สำราญชนม์ยืน ทุกวันคืนชื่นชม อุดมวรรณะผ่องฉวี ภัยมากมีอย่าใกล้กลาย  โรคร้ายคลายหายสิ้น ทุกชีวินเจริญยศ เฟื่องปรากฏสามารถ เปรื่องปราชญ์เลิศสรรพวิทย์ ก่อกิจสำเร็จประสงค์ ขอจงอวยพรศรีสวัสดิ์ ปัดสรรพภัยสิ้นทุกประการ นำศฤงคารโภคา ล้วนล้ำมาเพิ่มพูน ประมูลมากธนสาร ทุกวันวารเนืองนิตย์ ประสิทธิ์แด่ปวงข้าพเจ้า บรรดาเหล่ากัลยาณีไซร้ ให้สถาพรเจริญมาก สมพรปมกข้าพร้อง เชิญสรรพจารีย์ซร้องแซ่ ให้ชัยเฉลิมโสตถิเทอญฯ

              >>>>>>>>>>>>>>*********<<<<<<<<<<<<<<

สระล้างดาบ ปี ๒๕๕๗

สระล้างดาบ 
วัน"คืนสู่ร่มจัน" ครั้งที่ ๑๒
๗ มิถุนายน ๒๕๕๗

สระล้างดาบที่ประหารศรีปราชญ์
    ที่เมืองนครศรีธรรมราชมีตำนานพื้นบ้านของสถานที่แห่งหนึ่งเรียกกันสืบมาว่า สระล้างดาบศรีปราชญ์ บ้างว่าอยู่บริเวณหลังจวนเจ้าเมืองเก่า บ้าง ก็ว่าอยู่ในบริเวณโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช เรื่องเล่าเกี่ยวกับสระล้างดาบศรีปราชญ์นี้มีความ สัมพันธ์กับเค้าเรื่องของกวีศรีปราชญ์ ที่ทำความผิด กฎมณเทียรบาล ได้รับพระมหากรุณาธิคุณลดหย่อน ผ่อนโทษเนรเทศไปอยู่ที่หัวเมืองไกลถึงนครศรีธรรมราช เชื่อกันว่าอาจเป็นที่มาของวรรณคดีนิราศโบราณโคลงกำสรวลศรีปราชญ์ หรือนิราศเมืองนครศรีธรรมราช กล่าวกันว่า ต่อมาศรีปราชญ์ทำความผิดซ้ำอีก จนถูกเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชตัดสินถึงขั้นประหารชีวิตแล้วนำดาบมาล้างน้ำ ณ สระแห่งนี้


โองการธรณีสาส์น

นโมสามจบ
สาธุ สัคเคกาเม จะรูเป คิริสิขะระตะเฎ จันตะลิก วิมาเน
ทีเปรัฎเฐ จะคาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
ภุมมา จายันตุเทวา ชะละถุละวิสะเม ยักขะ คันธัพ พะนาคา
ติฏฐันตา สันติเกยัง มุนิวะระ จะนัง สาธะโว เมสุณันตุ
ธัมมะ สะวะนะกาโล อะยัมภะ ทันตา ฯ (สามครั้ง)     

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทรงพระเจริญ

๘๖              พระชนกพระปกเกล้าปกเกศ
พรรษา        ถ้วนพระภูเบศวร์พระนเรศนราไศย
มหา            ชนแซ่ซ้องพระเกียติก้องขจรขจาย
ราชา           ศูนย์รวมใจรวมจิตพสกนิกร  ฯ

ขอ              พระธาตุยอดทองเมืองนครประสาทประสิทธิ์
ทรง            เกษมสราญจีตนฤมิตรนฤหมาย
พระ            ประสงค์จงสัมฤทธิ์สมดำริหฤทัย
เจริญ          พระวรกายนิรันกาลนิรันดร ฯ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ศิษย์เก่าโรงเรียนกัลยาณีนครศรีธรรมราช